สไปเดอร์ แมน ผงาดข้ามจักรวาลแมงมุม แม้กระนั้นการยกเครื่องผู้กำกับใหม่อีกทั้งชุด จากในภาคแรกที่ยังเพียงพอส่งผลงานหนังยาวรับรองมาบ้าง เปลี่ยนมาเป็น วาคิม ดอส ซานโตส (Joaquim Dos Santos) เคมป์ พาวเวอร์ส (Kemp Powers) และก็จัสติน เค. ธอมป์สัน (Justin K. Thompson) ที่ส่งผลงานแอนิเมชันโทรทัศน์ซีรีส์เสียจำนวนมาก
โดยจะมีคณะทำงานเดิมที่หลุดมาก็เพียงแค่มือเขียนบท ฟิล ลอร์ด (Phil Lord) ที่อาจจะมาช่วยทำให้เรื่องราวสืบต่อราบรื่น กับเพิ่มกลุ่มเขียนบทมาด้วยอีก 2 คนหมายถึงคริสโตเฟอร์ ไม่ลเลอร์ (Christopher Miller) รวมทั้ง เดฟ กัลลาหมูแฮม (Dave Callaham) ที่รายข้างหลังพึ่งส่งผลงานอย่าง ‘Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings’ (2021) มองเป็นงานที่ดูดีสุด แม้กระนั้นก็ยังไม่น่าจะมากพอ
อีกสิ่งที่ทำให้มันบันเทิงใจมากมายๆเป็นเนื่องจากว่ามันเป็นมัลติเวิร์สเนี่ยล่ะ ด้วยเหตุว่ามันทำให้ตัวหนังมีอิสระมากมายๆว่าจะไปจบที่ที่ไหน เป็นทั้งหมดทุกอย่างมันมากเกินคาดคะเนไปๆมาๆก ลุ้นแบบจิกเบาะทั้งยังเรื่อง มีแต่ว่าสิ่งที่จะทำให้เหวอได้ไม่พัก แถมมุกขบขันที่แทรกสอดมาในเรื่องก็ทำเป็นดีด้วยด้วยเหมือนกัน ซึ่งไม่จำเป็นที่จะต้องมาวิตกกังวลหรือกลุ้มใจไปว่ามีหลายจักรวาลและก็จะมองไม่รู้เรื่อง
ส่วนในที่สุดที่ไม่เอ่ยถึงมิได้เลยเป็นงานภาพรวมทั้งการลำดับภาพ ส่วนนี้เป็นสิ่งที่สุดยอดที่สุดของหนังหัวข้อนี้ อีกทั้งการออกแบบ สไตล์งานภาพในแต่ละจักรวาลที่จะแตกต่างออกไป บวกกับการลำดับที่ไม่เคยรู้ว่าใช้ความคิดส่วนไหนคิด มันล้ำกว่าที่คิดไว้ไปจำนวนมาก แม้กระนั้นก็จะต้องเห็นด้วยว่างาท้องฟ้าพมันเต็มไปด้วยแสงสีแล้วก็การลำดับภาพที่ค่อนข้างจะไวก็บางทีอาจผิดดวงใจคนอีกจำนวนไม่น้อย
แต่ว่าส่วนตัวผมกลับอยู่ในฝั่งที่ถูกใจมากมายๆฟินตลอด 2 ชั่วโมงตั้งแต่ต้นจนกระทั่งจบ สรุปว่าบอกไปก็จะกล่าวหาอวย ทุกคนควรจะไปดูด้วยตาตนเองจะดีมากกว่า สรุปสั้นๆกล้วยๆเลยว่า ภาคต่อประเด็นนี้ดีเลิศสมการคอย เหนือกว่าภาคแรกในทุกระดับ ชูให้เป็นเยี่ยมในหนังที่บันเทิงใจที่สุดในครึ่งปีแรกของปี 2023 ไม่สมควรพลาดด้วยประการทั้งปวงจริงๆด้วยเหตุว่าหนังเขาเล่าแบบละเอียดและก็รู้เรื่องได้แบบไม่มีปัญหาคาใจเลย
สไปเดอร์ แมน ผงาดข้ามจักรวาลแมงมุม งานภาพจี๊ดจ๊าด รายละเอียดจี๊ดหัวใจ
โซนี่ยังคงเอาจริงเอาจังจะทำหนังซูเปอร์วีรบุรุษตัวชูโรงของพวกเขาให้เหมาะสมที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ ข้างหลังทำหนังแบบคนแสดงมา 2 ชุด ก็หันมาทำไอ้แมงมุมให้แปลงเป็นแอนิเมชันบ้าง รวมทั้งภายหลังจากบรรลุความสำเร็จ ได้เสียงตอบรับที่ดีจากภาคแรก ก็ได้ขณะที่ภาคสองจะผงาด ‘Spider-Man: Across the Spider-Verse’ ที่ชื่อไทยก็ยาวไม่แพ้กัน ‘สไปเดอร์-แมน: ผงาดผ่านจักรวาลแมงมุม’ หนังที่เล่าสไปเดอร์-แมนที่วุ่นวายวุ่นอยู่กับมัลติเวิร์ส
จากผลงานฉบับคอมิกที่เขียนโดย ดินแดน สลอตต์ ถูกจับจับมาดัดแปลงสร้างเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันฉายโรง และก็เรื่องราวที่สม่ำเสมอจากภาคแรก ‘Spider-Man: Into the Spider-Verse’ เมื่อวัยรุ่นผิวสีอย่าง ไมลส์ โมราเลส ที่ถูกแมงมุมอาบรังสีกัดเข้าโดยบังเอิญ กระทั่งแปลงเป็นสไปเดอร์แมนคนใหม่ แถมยังได้พบว่า คิงพิน มาเฟียตัวร้ายเป็นคนที่สร้างอุปกรณ์เร่งอนูสร้างประตูมิติขึ้นมา
สายสูญเสียความจำที่ตื่นบนโลกที่มีเชื้อไวรัสแปลกระบาด หนังจากประเทศเกาหลีที่เน้นย้ำความเย้ายวนใจจากฉากแอ็กชันโดยยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสายคนหนึ่งตื่นมาในรีสอร์ทโดยที่ไม่อาจจะจำอะไรได้ และก็ภายหลังตื่นเพียงแค่ไม่นาน ก็มีหน่วยสืบราชการลับของสหรัฐอเมริกาบุกเข้ามาในห้องเพื่อจับตัวเขา ซึ่งเขาจำต้องพบกับสถานะการณ์พิลึกต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็น เชื้อไวรัสที่ทำให้คนบ้าคลั่งและก็เข้าจู่โจมคนอื่นๆ หรือการตามล่าตัวเขาจากรัฐบาลอเมริกา ประเทศเกาหลีเหนือ รวมทั้งประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเขามีเพียงแค่ข้อมูลเล็กน้อยที่ได้รับจากเสียงด้านในหูของเขาจากบุคคลปัญหา ที่รอสั่งให้ทำภารกิจการตามหาเด็กหญิงคนหนึ่ง คนที่มีเลือดสำหรับในการรักษาเชื้อไวรัสที่กำลังระบาดอยู่ และก็เขาจำต้องนำคุณส่งให้กับรัฐบาลประเทศเกาหลีเหนือ
ประกอบกับปัญหาด้านการผลิตในตอนวัววิด-19 ที่ทำให้จำต้องเลื่อนระบุฉายมาถึง 2 ครั้ง พูดขวานผ่าซากเป็นน่าห่วงอยู่นิดๆในตอนแรก แม้กระนั้นพวกเขาก็เอาผลงานหัวข้อนี้พิสูจน์เสียงนินทาไปได้อย่างงดงามด้วยหวังจะนำลูกภรรยาจากมิติกลับมาตอบแทนการสิ้นไปของตนเองในมิตินี้ แต่ว่าก็กลับทำให้การความทับซ้อนมิติต่างๆและก็ส่งให้สไปเดอร์แมนจากแต่ละมิติได้หลุดเข้ามายังโลกนี้
ซ้ำผู้ผลิตยังคงจะทราบแล้วก็ลดดีกรีความระห่ำลงทั้งหมดผู้แสดงกระพริบที่กวนตาสุดๆจากการข้ามมิติก็ลดลงมากมาย สไปเดอร์ แมน ผงาดข้ามจักรวาลแมงมุม แถมสไตล์ภาพในแต่ละจักรวาลก็มีความแตกต่างกันแม้กระนั้นที่พินิจได้เป็นใช้งานภาพแบบที่สบายตามากขึ้น ความใกล้เคียงจะไปทางซีรีส์ ‘Arcane’ ที่งามโก้เก๋ แต่ว่าในหลายฉากต่อสู้ก็จำต้องเห็นด้วยว่ายังวูบวาบตามได้ยากนิดๆเช่นเดียวกัน
รีวิวหนัง “No Hard Feelings สาวแซ่บ..แอ๊บมาอ่อย”
มันก็คงจะครู่หนึ่งนึงได้แล้วนะ ที่พวกเรามิได้ปลดปล่อยเสียงหัวเราะออกมาแบบเต็มๆให้กับโปรแกรมหนังซัมเมอร์ที่สุดจริง..ตึงจริงอะไรอย่างงี้ แล้วก็การมาของภาพยนตร์ตลกติดลามกเรื่องปัจจุบันในปีนี้ก็ได้มาช่วยเติมเต็มส่วนที่เลือนหายนั้นไป นี่เป็น “No Hard Feelings สาวแซ่บ..แอ๊บมาอ่อย” ที่เป็นงานคัมแบ็กกลับมาเล่นหนังอีกรอบของ “เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์” ภายหลังที่คุณเบรกไปเลี้ยงลูกได้ 2-3 ปี
ส่วนที่น่าดึงดูดเป็น หนังยังได้ เกเกลื่อนกลาด บัลดิ (Greg Baldi) ผู้กำกับภาพที่ผ่านงานถ่ายคิวบู๊มากมายประสบการณ์จาก ‘John Wick: Chapter 3 – Parabellum’ (2019) แล้วก็ได้ อเลกซ์ โรดริเกวซ (Alex Rodríguez) มือตัดต่อที่เคยผ่านหนังยอดเยี่ยมทดลองเทค ‘Children of Men’ (2006) มาแล้ว ถือได้ว่าเป็นการเลือกคณะทำงานที่น่าดึงดูดมากมาย แล้วก็ทำให้ด้านโปรดักชันนั้นยอดเยี่ยมสมการรอมีฉากขนาดใหญ่ที่ขายได้หลายฉากให้จำ
ถึงแม้หนังจะมีเรื่องราวที่เข้าถึงง่าย มีการขยายเพิ่มความเป็นคนของเรกด้วยการเปิดเผยด้านอ่อนแอที่ค้างในใจ เป็นการสะสางอดีตกาลเพื่อเดินหน้าถัดไปอย่างมุ่งมั่นขึ้น แล้วก็ขยายเรื่องราวด้วยหน่วยงานใหม่ๆพูดได้ว่าเป็นภาคต่อที่ปฏิบัติหน้าที่สะพานได้ออกจะดี แต่ว่าก็จะต้องสารภาพว่าเมื่อด้านหนึ่งหนังพรีเซ็นท์ตนเองเป็นแอ็กชันนันสต็อปพอเพียงหนังมีจังหวะพักหายใจด้วยดราม่าขนาดเล็กที่เชยๆมันเลยมองขืนจังหวะหนังอยู่เล็กน้อย
ยิ่งไปกว่านี้ความทะยานอยากสำหรับการดีไซน์ฉากแอ็กชันปริมาณยาวอปิ้งทดลองเทค เมื่อไตร่ตรองว่าเป็นทดลองเทคที่หลบการตัดต่อเชื่อมไว้ผสมเทคเข้าด้วยกันหลายตอน พวกเราก็เลยสัมผัสได้ตั้งแต่ตอนที่มีความดิบของแฮนด์เฮลด์ร้ายแรงจนถึงมองไม่จัดการ มาเป็นทดลองเทคสวยๆที่โชว์คิวแอ็กชันเทวดา ไปจนกระทั่งฉากที่มองเห็นซีจีลอยลวงตากระจ่าง หรือฉากที่จำต้องยอมปลดปล่อยให้โวกระทั่งตลกขบขันแบบโดนปืนกลยิงกระหน่ำ
ส่วนที่น่าดึงดูดเป็นในภาคนี้ได้มีตัวละครใหม่ๆอย่าง สปอต หรือ ดร. โจห์ทุ่งนาธอน โอห์น คนร้ายพลังหลุมมิติที่แสดงตัวหนแรกในคอมิกปี 1984 ซึ่งส่วนตัวรู้สึกเป็นตัวร้ายที่โก้และก็มีชีวิตชีวามากมายตั้งแต่ครั้งอ่านหนังสือ อีกทั้งเป็นคู่ปรปักษ์ที่มีพลังน่าดึงดูดมากมายๆเนื่องจากว่าตามฉบับเดิมสปอตจะมีพลังที่จู่โจมใส่สไปเดอร์แมนได้โดยที่สไปเดอร์เซนส์ไม่สามารถที่จะรับทราบล่วงหน้าได้ ด้วยเนื่องจากสปอตใช้การจู่โจมมาจากมิติอื่นผ่านหลุมมิติบนตัวนั่นเอง
หนังยังคงแสดงความทะยานอยากด้านภาพอย่างแจ่มชัดอย่างที่ภาคแรกทำให้ตะลึงงันมาแล้ว ว่าหนังใหญ่ย้ำตลาดทั่วๆไปจะกล้าใช้งานแบบอาร์ตราวกับพวกแอนิเมชันแนวทดสอบขนาดนี้ แต่ว่าภายหลังช่วยเปิดทางมา และก็ผู้ชมก็ได้พบอีกทั้งซีรีส์ ‘Love Death + Robots’ (2019) แล้วก็ ‘Arcane’ (2021) มันก็ทำให้การดูหนังภาคนี้ไม่โหดร้ายทารุณต่อสายตาพวกเรามากเท่าไรนัก
รีวิว Kill Boksoon: คิลบกซุน
ที่เป็นหนังประเทศเกาหลีแนวแอคชั่นตื่นเต้นไปกับแม่ คิลบกซุน ที่ตอนกลับไปอยู่บ้านคุณก็เป็นแม่เลี้ยงบุตรสาววัยรุ่นทั่วๆไป แม้กระนั้นเมื่อถึงเวลางานคุณนั้นเป็นมือสังหารรับจ้างฝีมือยอดเยี่ยมที่เกือบจะไม่เคยพลาด ซึ่งคุณนั้นดำเนินงานอยู่ภายใต้บริษัท MK Ent ของชามินกยู ผู้ที่คุณเคารพยกย่องด้วยเหตุว่าเป็นคนรอสอนเรื่องราวต่างๆให้ แต่ว่าคุณก็รู้ว่าเขาไม่ใช่คนเดินดิน
ชายหนุ่ม เจค พอร์ตแมน จะต้องเริ่มเดินทางไปยัง เกาะสนใจนโฮล์ม ตามคำสั่งเสียของปู่ ตรงนั้นเขาได้เจอกับเด็กปัญหาตามคำกล่าวของปู่ พวกเขาพาเจคทะลุไปยังที่พักลึกลับที่อุปถัมภ์ค้ำชูเด็กที่มีพลังพิเศษ ในปี คริสต์ศักราช 1943 เขาได้เจอกับ มิสเพริกริน ผู้ดูแลบ้านข้างหลังนี้และก็เด็กแปลก 9 ผู้ที่เป็นเพื่อนๆของปู่ของเขา ด้านในภายข้างหลังนั้นเจคได้ทำความเข้าใจการใช้ชีวิตรวมทั้งค้นหาคำตอบของสิ่งที่เขาคาใจ
คืออะไรบ้างขา มีหนังเรื่องไหนชอบใจสหายๆบ้างหรือไม่เอ่ย ที่พวกเราเอามารีวิววันนี้มีทั้งยังซีรีย์และก็ภาพยนตร์ให้เลือกดูอย่างจุใจเลยใช่ไหมค่ะ นอกเหนือจากนี้เพื่อนฝูงๆยังได้ฝึกฝนภาษาอังกฤษจากหนังอีกด้วย ได้ประโยชน์สองถัดไปเลย แม้กระนั้นยังสำหรับวันนี้จำต้องขอตัวไปดูซีรีย์ต่อแล้วจ้ะ ไว้เจอะกันบทความหน้านะคะ สวัสดีจ้ะ
ซึ่งยิ่งเพียงพอเทียบกับหนังเน็ตฟลิกซ์ที่โชว์ทดลองเทคในฉากอลหม่านกลางเมืองแบบสมจริงสมจังอย่าง ‘Athena’ (2022) ก็ทำให้มีความคิดว่าครั้งคราวลดเวลาของทดลองเทคลงแล้วตัดต่อแบบธรรมดาบางครั้งก็อาจจะได้ซีนแอ็กชันที่ดียิ่งกว่าก็เป็นไปได้ อันนี้ส่วนตัวรู้สึกถูกใจทดลองเทคในภาคแรกที่ดิบและก็มองจริงมากยิ่งกว่าในภาคนี้ที่ประดิดประดอยมากมายไปหลายฉากกระทั่งมองไม่จริง และก็ถ้าเกิดตัดตอนโชว์ไป
สำหรับภาคนี้ก็คงจะกล่าวได้ว่าเป็นหนังที่มองเพลิดเพลินบันเทิงใจระทึกใจแบบยาวๆลื่นๆละลานตาได้ยอดเยี่ยมเหมือนเคย แต่ว่าก็ยังเต็มไปด้วยความธรรมดาหลายชนิดที่แทรกสอดมาทำลายภาพรวมของหนังให้ไปไม่สุดความเพลิดเพลินยอดเยี่ยมอย่างที่ต้องเป็น แต่ถ้าคิดว่ามันเป็นหนังที่ปูพื้นเพื่อสร้างจักรวาลของตนเอง ก็จะต้องจัดว่าอีกทั้งในส่วนบทและก็การคิดความหมายของฉากแอ็กชันแต่ละฉากนั้น
รีวิว The Good Nurse
ที่มองชื่อแล้วบางครั้งอาจจะรู้สึกว่าเป็นหนังช่วยคนโชว์ความเชี่ยวชาญของแพทย์ แต่ว่าข้อเท็จจริงประเด็นนี้ก็ไปคนละด้านเลย ซึ่งเรื่องราวนี้เกิดขึ้นกับตัวของ เอมี่ พยาบาลหญิงสาวที่จำเป็นต้องเลี้ยงลูกไปด้วยเพียงผู้เดียว แม้กระนั้นคุณก็ยังทุ่มเทให้กับการทำงานในแผนก ICU ถึงดึกจนได้เจอกับ ชาร์ลี ชายหนุ่มอีกผู้ที่มีนิสัยดีรวมทั้งรอเข้ามาช่วยเหลือจนกระทั่งสนิทกันถึงคนที่อาศัยอยู่ในครอบครัว ที่คนไม่ใช่น้อยก็ให้ความวางใจ
ติดลมบนได้ตังค์จาก Maleficent ดิสนีย์เลยจับคุณครูเอลลา เดอวิลล์ ตัวร้ายคลาสสิคอีกรายมาทำหนัง ให้เอ็มมา สโตนมาเล่นเป็นนาง (เอก) ร้ายผู้ครอบครองชื่อ เรื่องราวก็ขุดค้นถึงภูมิหลังในชีวิต ที่ทำให้นักแสดงรายนี้เป็นอย่างที่มองเห็นใน 101 Dalmatians โดยมีเอ็มมา ธอมป์สันร่วมแสดงในเวลาเดียวกันเจคแล้วก็เด็กๆจำต้องช่วยกันเพื่อต่อสู่ซาตานจุดหมายจะทำลายบ้านเพริกริน
ราวกับชีวิตทั้งหมดทุกอย่างอยู่ในกำมือของเขา ทั้งยังจำต้องมาพบมือสังหารที่รอตามคุณ สไปเดอร์ แมน ผงาดข้ามจักรวาลแมงมุม ไหนจะประเด็นการเลี้ยงลูกที่ไม่ง่ายอีก เรื่องราวจะเป็นเยี่ยงไรจำต้องไปดูกันแม้กระนั้นยืนหลบข้างหลังกระไดลิงแล้วผิดลูกปืนแม้กระนั้นในเวลาเดียวกันก็มีข่าวสารว่าคนไข้ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยเสียชีวิตลงปิ้งปัญหา แล้วก็ชาร์ลีก็ยอดเยี่ยมในผู้ต้องสงสัยคนสำคัญในคดีนี้อีกด้วย
No Hard Feelings เป็นเรื่องราวของ แมดดี้ สาวฟรีแลนซ์ที่ไม่ได้มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง เธอมีรถและขับอูเบอร์รับจ้างไปวัน ๆ แต่กำลังเผชิญหน้ากับปัญหาทางการเงินอย่างยิ่งยวด ซ้ำร้ายรถที่เป็นเครื่องมือทำมาหากินของเธอกำลังจะถูกยึดไป แต่แล้วเธอก็ได้พบกับโพสต์แปลก ๆ ในชุมชนออนไลน์ที่ต้องการคนช่วยเหลือคนที่กำลังมีปัญหาเข้ากับสังคม โดยพ่อแม่ครอบครัวหนึ่งที่เป็นกังวลว่าลูกชายของพวกเขาจะไม่รู้จักการเข้าสังคม
เพอร์ซี่ เป็นเด็กหนุ่มที่กำลังจะมีอายุย่างเข้าสู่ชีวิตเรียนมหาวิทยาลัย เขาคือเด็กเนิร์ดที่หมกหมุ่นอยู่แต่กับงานวิชาการ ไม่สนใจที่จะมีปฏิสัมพันธ์ใด ๆ กับคนอื่น รวมทั้งไม่มีแนวคิดที่จะจีบสาวและปลดล็อกความซิงของตัวเองเลย ดังนั้น..เพื่อต้องแรกกับรถที่เธอต้องใช้ทำกิน แมดดี้ จึงตัดสินใจก้าวขาย่างก้าวมารับงานนี้ เพื่อจะทำทีเป็นคนรักของเพอร์ซี่ เพื่อปลูกฝังอารมณ์ร้อนเร่าและความพลุกพล่านทางฮอร์โมน
ให้สอดคล้องช่วงวัยของเด็กหนุ่มที่กำลังจะเติบโตไปสู่โลกกว้างในฐานะการเป็นผู้ใหญ่ทำเป็นน่าดึงดูดแล้วก็พอเพียงมองเห็นอนาคตที่ผ่องใสของแฟรนไชส์นี้ได้อยู่ไม่น้อยส่วนตัวมีหลายฉากแอ็กชันที่ทำเป็นน่าดึงดูดแม้กระนั้นบางทีอาจถูกพรีเซ็นท์สั้นไปสักนิดสักหน่อยอย่างฉากต่อสู้ในห้องบริหารร่างกาย g2g168k ฉากบนพื้นกระจกของอาคารสูง ฯลฯ